"Hellblade: Senua's Sacrifice" คือเกม Action-adventure ผสมผสานด้วย hack and slash ซึ่งก็คือเกมแอ๊คชั่น-ผจญภัยที่เอาชนะศัตรูในการต่อสู้ โดยใช้อาวุธพื้นฐานเป็นดาบหรืออาวุธโจมตีระยะประชิด ท่ามกลางโลกแฟนตาซีสุดหลอนที่สะท้อนความมืดดำในจิตใจของมนุษย์ จากฝีไม้ลายมือของทีมพัฒนา "Ninja Theory" ซึ่งโด่งดังมาจากผลงานการสร้างเกม "DmC : Devil May Cry"
เกมนี้เป็นเรื่องราวของสาวนักรบชนเผ่าเซลติกผู้มีนามว่า "Senua" ซึ่งสภาพจิตใจเกิดความบอบช้ำจากเหตุการณ์ที่หมู่บ้านของเธอถูกพวกไวกิ้งบุกถล่มพังพินาศ ผู้คนล้มตายจนหมด รวมทั้งคนรักของเธอด้วย ทำให้ได้ยินเสียงแปลก ๆรอบตัวตลอดเวลา การสูญเสียทุกคนในเผ่าไปโดยเฉพาะคนรัก ทำให้จิตใจของ Senua ถูกความดำมืดเข้าครอบงำ ตัวเกมต้องการสื่อว่า หากคุณอ่อนแอ ปล่อยให้จิตใจถูกความชั่วร้ายเข้าควบคุมให้ทำสิ่งไม่ดี ตัวของคุณเองก็จะต้องตายไปในท้ายที่สุด เหมือนเช่น Senua ที่ต้องต่อสู้กับสภาพจิตใจของตัวเอง ซึ่งตัวเกมเปรียบการต่อสู้ครั้งนี้เสมือนการเดินทางไปยังดินแดน Helheim ที่ประดุจนรกบนดิน ตลอดการเดินทางเธอได้นำกะโหลกศีรษะของคนรักที่เสียชีวิตไปแล้วติดตัวไปด้วย จุดประสงค์ของการเดินทางครั้งนี้ เพื่อทวงคนรักของเธอกลับคืนมา แต่ถ้าทำไม่สำเร็จ ความชั่วร้ายก็จะกัดกินร่างของเธอจนสูญสลาย
ความโดดเด่นของเกมนี้อยู่ที่ภาพกราฟิกสุดสมจริงจาก Unreal Engine 4 ในการพัฒนา ทำให้ได้ฉากภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันแสนสวยงาม แต่ก็มีความลึกลับ น่าพิศวง ไม่ว่าจะเป็นผืนป่า ลำธาร และชายหาดทะเล ในยุคที่ไวกิ้งยังเรืองอำนาจ ใน่วนของตัวละครก็ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก ทั้งรูปร่าง หน้าตา ท่าทาง สีหน้าการแสดงอารมณ์ รวมทั้งชุดแต่งกาย อาวุธที่ดีไซน์ออกมาได้อย่างน่าทึ่ง ตัวละครแต่ละตัวมีความโดดเด่น โดยเฉพาะเหล่าศัตรูที่ทำออกมาได้น่ากลัว น่าเกรงขาม สมกับเป็นเหล่านักรบแดนเถื่อนอย่างแท้จริง
ทางระบบการต่อสู้ที่ฟาดฟันเอาชีวิตกันด้วยดาบนักรบด้ามใหญ่ ขวานด้ามยักษ์ หอกอันยาว โล่ ฯลฯ ทำออกมาได้สมจริงสมจัง ดุดัน และดุเดือดมาก ๆ ทั้งเสียงและภาพ มีความน่าตื่นเต้นเร้าใจสุด ๆ ส่งผลให้ฉากต่อสู้ถือเป็นไฮไลต์ของ Hellblade: Senua's Sacrifice อย่างแท้จริง โดยเฉพาะการต่อสู้กับเหล่าบอสทั้งหลาย นอกเหนือจากการต่อสู้ เกมได้ใส่พัซเซิ่ล การแก้ปริศนาต่าง ๆ เอาไว้มากมาย ซึ่งช่วยให้เกมมีความสมดุลมากขึ้น ไม่ได้มีแต่แอ๊คชั่นอย่างเดียว ได้ลับสมองด้วย
อีกหนึ่งเสน่ห์ของเกมนี้ คือความไม่รู้ ซึ่งแปรเปลี่ยนเป็นความท้าทายของผู้เล่น ตัวเกมจะไม่มีการสอนวิธีเล่นใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่มีไกด์ใด ๆ ไม่บอกว่าปุ่มไหนใช้ทำอะไร ต้องลองกดดูเอง ไม่มีค่าพลังชีวิตแสดงให้เห็น ไม่มีแผนที่ ไม่มีการแสดงอะไรให้เห็นทางจอเลย ทำให้เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าจะตายตอนไหน ตรงจุดไหนต้องกดปุ่มอะไร มีเพียงไกด์เล็ก ๆ จากเสียงหลอน ๆ ที่ Senua ได้ยินเท่านั้น ซึ่งเราต้องพยายามฟังให้ดี
GENRE: Action, Adventure, Indie
DEVELOPER: Ninja Theory
PUBLISHER: Ninja Theory
RELEASE DATE: 8 Aug, 2017