ถ้าจะพูดถึงเกมที่มีชื่อระดับเทพแต่มีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบมากพอๆกันต้องมีชื่อเกม
Assassin's Creed อยู่ อาจะเป็นเพราะเกมเพลย์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่เน้นลอบสังหารมากกว่าการต่อสู้แบบเกมทั่วไป
แต่โดยเนื้อแท้แล้วเกม Assassin's Creed ถือว่าเป็นเกมแนวสายลับลอบเร้นระดับมาสเตอร์พีช ขนาดเทพของเกมแนวนี้อย่าง โคจิม่า แห่ง Metal Gear Solid ยังยกนิ้วให้ เพราะทั้งความสนุกในแบบเกมแนวซ่อนเร้นแท้ๆแล้วยังได้แทรกเอาประวัติศาสตร์ในยุคสมัยอดีตมาผสมผสานเป็นเกมได้ลงตัว มาในภาค 3 นี้ได้หยิบยกเอาการปฏิวัติอเมริกามาเป็นเนื้อเรื่องหลัก โดยเฉพาะเหตุการณ์ “งานเลี้ยงน้ำชาที่บอสตัน” Boston Tea Party อันเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ชาวอาณานิคมอเมริกาลุกฮือขึ้นมาต่อต้านอังกฤษ
สัมผัสแรกภาพในเกมแม้จะไม่ได้สวยงามโดนเด่นอะไร แต่สำหรับเกมที่มีฉากกว้างๆมีตัวละครมากมายแล้วถือว่าดูได้เพลินตา โดยเฉพาะการจำลอง อเมริกาในศตวรรษที่ 18 ที่เหมือนจริงจนน่าขนลุก แถมยังแทรกวัฒนธรรมของทุกชนชาติไม่ว่าจะเป็นเหล่าขุนนางระดับสูง , ชาวบ้าน , ทหาร ไปจนถึงชนเผ่าอินเดียนแดงซึ่งตัวละครหลักของภาคนี้ยังสร้างให้กลมกลืนกับยุคสมัยและมีพัฒนาการไปตลอดเกม แถมยังมีบุคคลสำคัญที่มีชีวิตอยู่ในช่วงนั้นมาเป็นตัวละครในเกมเช่น เบนจามิน แฟรงคลิน , จอร์จ วอชิงตัน ทำให้เกมนี้เหมือนกับบทเรียนวิชาประวัติศาสตร์ที่เล่นได้ แม้เนื้อเรื่องในเกมจะเขียนขึ้นมาใหม่
Genre: Adventure
Developer: Ubisoft Studios
Publisher: Ubisoft
Release Date: 22 Nov 2012